สำหรับปี 2567 นี้ นับเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทยอีกวาระหนึ่ง เพื่อเฉลิมฉลอง 2 โอกาสมหามงคลของปวงชนชาวไทย ได้แก่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคลนี้ โดยคัดเลือก ตอนพระจักราวตาร อันเป็นตอนที่แสดงกฤษฎาภินิหารของพระจักราหรือพระนารายณ์ ที่อวตารลงมาเป็นพระรามเพื่อปราบปรามฝ่ายอธรรม เปรียบประดุจพระนารายณ์หรือพระจักราเป็นต้นราชวงศ์จักรี ที่ปกครองบ้านเมืองให้มีความสงบสุขร่มเย็น ทรงเสียสละเพื่อผดุงชาติบ้านเมือง ดับยุคเข็ญ นำชาติไทยให้ก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้
พระจักราวตาร ดำเนินเรื่องเริ่มจากพระอินทร์และเหล่าเทพนิกรพากันไปอัญเชิญพระนารายณ์ ขณะประทับเหนือพญาอนันตนาคราชในเกษียรสมุทรให้อวตารเพื่อปราบยุคเข็ญ พระนารายณ์เป็นพระราม เทพพาหนะและเทพอาวุธเป็นพระอนุชา พระลักษมีพระชายาเป็นนางสีดาซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งการต่อสู้รบพุ่งกับฝ่ายอธรรมคือทศกัณฐ์ และญาติวงศ์ จากนั้นได้ผูกเรื่องตัดตอนตั้งแต่พระรามเสด็จไปยกศรที่นครมิถิลา ได้นางสีดาเป็นมเหสี และดำเนินเรื่องตั้งแต่นางสำมนักขาขนิษฐาของทศกัณฐ์ได้เข้ามาฟ้องและยุยงจนเกิดสงคราม ขณะอยู่ในป่าทศกัณฐ์ใช้ให้มารีศแปลงกายเป็นกวางทองมาลวงล่อ พระรามออกติดตามกวางทอง ทศกัณฐ์แปลงเป็นพระสุธรรมฤษีลอบเข้ามาลักนางสีดาพาขึ้นราชรถ พบกับนกสดายุที่ขวางทาง ทศกัณฐ์ได้พานางสีดาไปไว้ในอุทยานท้ายกรุงลงกา เป็นเหตุให้เกิดสงครามระหว่างกองทัพพระรามและทศกัณฐ์ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ติดตามรับชมได้ในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนพระจักราวตาร แบ่งเป็น 2 องก์
องก์ที่ 1 ประกอบด้วยการแสดง 4 ฉาก
ฉากที่ 1 นารายณ์บรรทมสินธุ์
ฉากที่ 2 กฤษฎาภินิหารพระรามา (ปราบกากนาสูร)
ฉากที่ 3 สำมนักขาก่อศึก
ฉากที่ 4 พลัดพราก (ทศกัณฐ์ลักสีดา)
องก์ที่ 2 ประกอบด้วยการแสดง 4 ฉาก
ฉากที่ 5 ทศกัณฐ์รบสดายุ
ฉากที่ 6 พระรามได้พล
ฉากที่ 7 สงคราม
ฉากที่ 8 เฉลิมฉลองชัยชนะ
นอกจากการแสดงที่วิจิตรงดงามที่แสดงโดยนักแสดงเยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกซ้อมจากครูผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ จนมีฝีมือการร่ายรำอันงดงามถูกต้องตามจารีตแล้ว ผู้ชมจะได้รับฟังการบรรเลงดนตรีและขับร้องเพลงไทยอันไพเราะ รับชมความวิจิตรของเครื่องแต่งกายอันประณีต พบกับความพิเศษของสุดยอดฉากการแสดงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ของพระจักราวตาร ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อการแสดงโขนที่ยิ่งใหญ่บนเวที นับเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง ได้จัดการแสดงโขนเพื่อการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมความงดงามของศิลปะดั้งเดิมของไทยหลากหลายแขนงในการแสดงโขน โดยสิ่งที่เป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินงานคือ พระราชดำรัสเกี่ยวกับการอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้ว่า “ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน” นับเป็นความโชคดีของคนไทยและประเทศไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ เป็นการธำรงนาฏศิลป์ อันทรงคุณค่าของชาติให้สืบทอดอยู่ อีกนานเท่านาน
การเสวนาเรื่อง "คึกฤทธิ์กับความสัมพันธ์ไทย-จีน" วันอังคารที่ 1 กรกฏาคม 2568 เวลา 15.00-17.30 น. ณ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี
มูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์ฯ ร่วมกับ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการเสวนา "คึกฤทธิ์ ปราโมช กับ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน : ยุคก่อนและหลังอาณานิคม" วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 ณ ห้องบรรยาย 303-304 อาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
น้อง ๆ คนไหน มีใจรักในการเล่นโขน โอกาสของคุณมาถึงแล้ว แค่คุณกล้า และมั่นใจ!!กับรายการ “เด็กไทยหัวใจโขน” เรียลลีตี้โชว์รายการแรกของวงการทีวีไทย ที่จะเฟ้นหา IDOL โขน คนแรกของเมืองไทย